Learn with Prin เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องปริญญ์

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Legacy /Reborn Set ลด Fat ตัวช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก แบบถูกวิธี 🔥 ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ 📍 โทร ☎️ :: 084-110-5021 🌸 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line นะคะ 📍

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

ระบบการศึกษาในประเทศสหราชอาณาจักร UK

ระบบการศึกษาในประเทศสหราชอาณาจักร UK


  

สถานศึกษาทุกระดับในสหราชอาณาจักร จะเปิดภาคการศึกษา ในช่วงเดือนกันยายน จนถึงต้นเดือนตุลาคมของปีที่หนึ่ง และสิ้นสุดภาคการศึกษาประมาณปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป โดยแบ่งภาคการศึกษาออกเป็น


ภาคต้น (Autumn Term) ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนกันยายน จนถึงเดือนธันวาคม
ภาคกลาง (Spring Term) ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมกราคม ไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม
ภาคปลาย (Summer Term) ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนเมษายน ไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม

ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักรแบ่งเป็น ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา
การศึกษาภาคบังคับของสหราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปี ไปจนถึง 16 ปี โรงเรียนมีทั้งประเภท โรงเรียนรัฐบาล (State School) และ โรงเรียนเอกชน (Public หรือ Independent School) โดยในช่วงเด็กมีอายุ 3 – 4 ปี จะเข้าเรียนในระดับอนุบาล หรือโรงเรียนระดับ Nursery ซึ่งมีทั้งโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน


1. ระดับประถมศึกษา (Preparatory School หรือ Prep School)

ตั้งแต่อายุ 5-13 ปี ใช้เวลาศึกษา 8 ปี
  • Pre-Prep School (เตรียมประถมศึกษา) ระยะเวลาศึกษา 2 ปี เรียกว่า Year 1 – Year 2 รับนักเรียนอายุ 5 – 7 ปี
  • Prep School (ประถมศึกษา) ระยะเวลาศึกษา 6 ปี เรียกว่า Year 3 – Year 8 ในบางโรงเรียนเรียก Year 7, Year 8 เป็น Form 1, Form 2
การศึกษาในระดับนี้ เน้นให้เด็กมีความสามารถในการปรับตัว และพัฒนาความคิดตามวัย กับสอนให้เด็กมีทักษะทางการเขียนและตัวเลข และเพื่อการเตรียมตัวสอบ Common Entrance Examination (CEE) เพื่อศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาต่อไป



2. ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School + Sixth Form College / College of Further Education)

นักเรียนอายุ 13 ปีขึ้นไป และเรียน ได้จนถึงอายุ 18 – 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า Year 9 – Year 13 (หรือ Form 3 – Form 6 (Year 12 – 13) สำหรับโรงเรียนที่เรียกระดับชั้นเป็น Form)

การขึ้นชั้นเรียนทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นการขึ้นชั้นเรียนต่อไปได้ โดยอัตโนมัติ ไปจนถึงอายุ 16 ปี ทางกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ จะกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ความสามารถของเด็ก โดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าว จะถูกนำไปใช้พิจารณาเรื่องการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป
การสอบนี้มี 2 ระดับ โดยจะสอบประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี คือ

GCSE (General Certificate of Secondary Education) การสอบระดับนี้ จะสอบเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 16 ปี ขึ้นไป นักเรียนเลือกสอบประมาณ 6-10 วิชา เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลป ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งเป็น 7 ระดับ คือ Grade A, B, C, D, E, F, G ผู้ที่สอบได้ Grade C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE ได้แล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา) หากจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาจะต้องศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปี ในระดับ A Level (Advanced Level)

A Level (Advanced Level) เป็นการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทางวิชาการของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป มีวิชาให้เลือกกว่า 50 วิชา ส่วนใหญ่นักศึกษาในระดับ A Level จะลงเรียนเพียง 2-4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาแต่ละวิชาอย่างลึกซึ้งวิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตรหรือสาขาที่ต้องการศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี ผลการสอบ A Level มี 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E แต่ Grade ที่ได้ทั้ง 5 ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป บางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนระดับ A และ B


คุณสมบัติขั้นต่ำของการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากผลการสอบทั้ง 2 ระดับ ดังนี้
วิชา GCSE 3 วิชา และ GCE “A” Level 2 วิชา  หรือ
วิชา GCSE 1 วิชา และ GCE “A” Level 3 วิชา

หลังจากจบการศึกษาภาคบังคับเมื่ออายุ 16 ปี นักเรียนสามารถเลือกที่จะไม่ศึกษาต่อ หรือจะศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไปได้




แผนผังแสดงระดับการศึกษาของประเทศอังกฤษ


3. ระดับอาชีวศึกษา (Vocational School)

เป็นการ ศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งไม่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือผู้ที่ไม่มีคุณวุฒิ GCSE แต่ประสงค์จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ
เดิมหลักสูตรอาชีวศึกษาของอังกฤษ มี 3 ระดับ คือ First Diploma, National Diploma และ HND (Higher National Diploma) แต่ปัจจุบัน คุณวุฒิวิชาชีพ มี 2 ประเภท คือ


GNVQ (General National Vocational Qualification) เป็นการศึกษากึ่งสายอาชีพ คือ เรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มี 4 ระดับ ดังนี้


  • GNVQ Foundation (ระดับพื้นฐาน) หลักสูตร 1 ปี รับจากผู้ที่อายุ 16 ปี ไม่ต้องมีคุณวุฒิใดๆ
  • GNVQ Intermediate หลักสูตร 2 ปี ต่อจาก GNVQ Foundation
  • GNVQ Advanced หลักสูตร 2 ปี เทียบเท่า A-Level ผู้ที่สำเร็จหลักสูตรนี้สามารถสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้
  • GNVQ 4 หลักสูตร 2 ปี เทียบเท่าหลักสูตรปีที่ 1 ของระดับ ปริญญาตรี จึงสามารถเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยได้ โดยใช้เวลาอีก 2 ปี

NVQ (National Vocational Qualification) เป็นวุฒิการศึกษาสายอาชีพและการฝึกปฏิบัติวิชาชีพเฉพาะ โดยผู้ว่าจ้างสหภาพแรงงงานและผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั้นๆ เป็นผู้กำหนดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาในระดับนี้แบ่งเป็น 5 ระดับ คือ NVQ1, NVQ2, NVQ3, NVQ4, NVQ5 แต่ละระดับจะยึดตามความสามารถเป็นหลัก ไม่มีการกำหนดระยะเวลาตายตัวในการเรียน



4. ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)

การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนของรัฐ การศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น


หลักสูตรปริญญาตรี (First Degree)
ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
  • หลักสูตรทั่วไป 3 ปี ผู้สำเร็จการศึกษา จะได้รับปริญญา BA (ศิลปศาสตรบัณฑิต) BBA (บริหารธุรกิจบัณฑิต) BEd (ศึกษาศาสตร์บัณฑิต) BSc (วิทยาศาสตร์บัณฑิต) LLB (นิติศาสตร์บัณฑิต) เป็นต้น
  • หลักสูตรบางสาขาใช้เวลาศึกษามากกว่า 3 ปี เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5ปี) ทันตแพทย์ศาสตร์ (5ปี) สัตวแพทย์ศาสตร์ (5ปี) แพทย์ศาสตร์ (6ปี)


ในสก๊อตแลนด์ มี 2 หลักสูตร คือ Ordinary Degree (3ปี) และ Honours Degree (4ปี) โดยเรียนเพิ่มจาก Ordinary degree อีก 1 ปี

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังเปิดหลักสูตรการศึกษาที่หลากหลายออกไปอีก ดังนี้
  • Joint Honours Degree เป็นการเรียนร่วมตั้งแต่ 2 สาขาวิชาขึ้นไป อาจเป็นสาขาวิชาที่ใกล้เคียงกัน เช่น เศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ หรืออาจเป็นสาขาที่ไม่ใกล้เคียงกันแต่ยังเกี่ยวข้องกันในทางหนึ่งทางใด เช่น คอมพิวเตอร์กับจิตวิทยา ทั้งนี้ กำหนดน้ำหนักการเรียนในแต่ละสาขาวิชา เท่ากัน
  • Combined Degree คือ ปริญญาร่วม โดยการเรียนแต่ละสาขาวิชา ไม่จำเป็นต้องมีน้ำหนักการเรียนเท่ากัน
  • Sandwich Courses เป็นการเรียนโดยรวมเวลาฝึกงานกับเวลาเรียนเข้าด้วยกัน เช่น การฝึกงานด้านอุตสาหกรรม การค้า การบริหารธุรกิจ หรืออาชีพอื่นๆ จึงต้องใช้ระยะเวลาศึกษานานกว่าปกติ (3 ปี) เป็น 4 ปี การฝึกงานอาจเป็นช่วงเดียว คือ เป็นเวลา 1 ปี หรือ 2 ช่วงๆ ละ 6 เดือน หากเป็น 2 ช่วง เรียกว่า หลักสูตร Thin-sandwich หลักสูตรทั้ง 2 ประเภทนี้ นักศึกษาต้องกลับมาเรียนที่ มหาวิทยาลัยในปีสุดท้ายก่อนสำเร็จการศึกษา

สำหรับผู้ที่มีผลการเรียนระดับปริญญาตรีไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานการเข้าศึกษา ปริญญาโทของมหาวิทยาลัย หรือผู้ที่เปลี่ยนสาขาวิชาเรียน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับให้เข้าศึกษาหลักสูตร Post-Graduate

Certificate/Diploma ระยะเวลา 9 เดือน ถึง 1 ปีก่อน แล้วจึงรับเข้าเรียนต่อหลักสูตรปริญญาโท


หลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรี (Higher degree) มี 2 ประเภท

ประเภทหลักสูตรเข้าชั้นเรียน (Taught Course) ระยะเวลาศึกษา 1 ปี


นักศึกษาสามารถเลือกเรียนเฉพาะด้านได้ โดยอยู่ในความดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษา หรือผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้นๆ วิธีการเรียนการสอนแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ในครึ่งปีแรกของหลักสูตรเป็นการบรรยายในชั้นเรียน การสัมมนาการติวกลุ่มย่อย หรือการทำงาน ในห้องทดลอง หลังจากนั้นอีกครึ่งปีจะเป็นการทำงานศึกษาวิจัยชิ้นใหญ่หรือที่วิทยานิพนธ์ ปริญญาที่ได้รับ เป็นระดับปริญญาโท อาทิ MSc., MA, MBA
เป็นต้น


ประเภทหลักสูตรการค้นคว้าวิจัย (Research Course) ใช้เวลาศึกษา 3 ปี โดยการทำวิจัยและเขียนวิทยานิพนธ์ ในปีแรกของปริญญาเอก เป็นการศึกษาวิจัยเพื่อให้มีความรู้ความสามารถเข้ามาตรฐานการเรียน
ปริญญาเอก เรียกว่าระดับ M.Phil เมื่อมีผลงานและความรู้ความสามารถตาม มาตรฐานจึงปรับให้เข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก Ph.D ปีที่ 2 (ไม่ใช่ Ph.D ปี 1) ซึ่งผลงานไม่ถึง มาตรฐานปริญญาเอกจะไม่ได้ผ่านศึกษาต่อจนสำเร็จหลักสูตร Ph.D. แต่จะได้รับวุฒิ M.Phil ซึ่งอาจเทียบเท่าเพียงระดับปริญญาโท แต่ผู้ที่ได้เรียนครบจนสำเร็จหลักสูตร Ph.D ก็จะได้รับวุฒิ Ph.D แต่ไม่ได้วุฒิ M.Phil เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง


New Route to Ph.D เป็นอีกทางเลือกของการศึกษาในระดับปริญญาเอก ในประเทศอังกฤษ ใช้เวลาเรียน 4 ปี โดย 30-40% ของหลักสูตรจะเป็นการเรียนแบบ Taught Course และอีก 60-70% จะเป็นการวิจัย


EDUCATION SYSTEM IN THE UK



Education is important in England, as it is Wales and Scotland too.
British children are required by law to have an education until they are 16 years old.
Education is compulsory, but school is not,children are not required to attend school. They could be educated at home.


1996 Education Act of the UK

Section 7 of the 1996 Education Act states:
"The parent of every child of compulsory school age shall cause him to receive efficient full-time education suitable-
(a) to his age, ability and aptitude, and
(b) to any special educational needs he may have,
either by regular attendance at school or otherwise."

Education is free for all children from 5 to 16.

Full-time education is compulsory for all children aged between 5 and 16 (inclusive) across England. This can be provided by state schools, independent schools, or homeschooling.
About 94 per cent of pupils in England, and the rest of the UK, receive free education from public funds, while 6 per cent attend independent fee paying schools or homeschooling.


Curriculum

All government-run schools, state schools, follow the same National Curriculum.
The School Year
The school year runs from September to July and is 39 weeks long.
For many areas the year is divided into six terms:
  • September to October
  • October to December
  • January to February
  • February to March
  • April to May
  • June to July

(Some counties in England still follow the traditional three terms a year.)

The dates for school terms and holidays are decided by the local authority or the governing body of a school, or by the school itself for independent schools.
School holidays

The main school holidays are:

  • Christmas- 2 weeks
  • Spring - 2 weeks
  • Summer - 6 weeks

There are also one week holidays:
    • end of October
    • mid February
    • end of May


When do kids start school?

Children normally start primary school at the age of four or five, but many schools now have a reception year for four year olds.

Children normally leave at the age of 11, moving on to secondary school (High school).
Please note aslo:
          

Every three and four year old in England is entitled to 12.5 hours of free early learning per week, in nurseries, playgroups, pre-schools or at their childminders for 38 weeks of the year.
When do kids leave school?

British children are required to attend school until they are 16 years old. In England, compulsory schooling currently ends on the last Friday in June during the academic year in which a pupil attains the age of 16. Current government proposals are to raise the age until which students must continue to receive some form of education or training to 18. This is expected to be phased in by 2015.

At the age of 16, students in England, Wales and Northern Ireland take an examination called the GCSE (General Certificate of Secondary Education). Study of GSCE subjects begins at the start of Year 10 (age 14-15), and final examinations are then taken at the end of Year 11 (age 15-16).
In state schools English, Mathematics, Science, Religious Education and Physical Education are studied during Key Stage 4 (the GCSE years of school); in England, some form of ICT and citizenship must be studied and, in Wales, Welsh must be studied. Other subjects, chosen by the individual pupil, are also studied.

In Scotland, the equivalent of the GCSE is the Standard Grade.

After completing the GCSE, some students leave school, others go onto technical college, whilst others continue at high school for two more years and take a further set of standardized exams, known as A levels, in three or four subjects. These exams determine whether a student is eligible for university.

Education stages:

Nursery Schools 3-4 years old
Primary Schools 5-11 years old
Foundation Stage - Nursery, Reception, (Infants) Key Stage 1 - Years 1 and 2 (Infants)
Key Stage 2 -Years 3 - 6 (Juniors)
Secondary Schools 12-18 years old
Years 7-13 (Key Stage 3, 4 & 5)






CR ::    เว็บไซต์ projectbritain.com ;   oeauk.net

1 ความคิดเห็น:

  1. ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
    การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยปัจจุบันมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรมีประมาณ 96 แห่ง เป็นของรัฐบาลเกือบทั้งหมด ยกเว้น University of Buckingham ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเพียงแห่งเดียวการศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
    Undergraduate
       • BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE)
    เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ “A” Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี
       • First Degree (Bachelor Degree)
    เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี)
    Post – Graduate
       • Post – Graduate Certificate Diploma
    หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ
       • Master Degree
    หลักสูตรการศึกษา 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี
       • Doctoral Degree
    หลักสูตรการทำวิจัย ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร M. Phil

    ตอบลบ